 |
สาวๆ หลายคนอาจเลือกวิธีลดน้ำหนักด้วยการกินโยเกิร์ต เพราะนอกจากจะเป็นอาหารที่สามารถกินได้ง่าย พกพาสะดวก และหาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อแล้วนั้น ยังถือเป็นอาหารที่ช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลเร็วอีกด้วย ดังนั้นวันนี้เราจึงขอนำ 6 วิธีการกินโยเกิร์ตที่ถูกต้อง เพื่อให้สาวๆ สามารถกินเพื่อการลดน้ำหนักที่เห็นผลได้ไวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นมาฝากกันค่ะ
1.ดูปริมาณน้ำตาลให้ดี
อันดับแรกที่ต้องสังเกตบนฉลากโยเกิร์ตให้ดีก็คือ ปริมาณน้ำตาลที่ร่างกายได้รับจากการกินโยเกิร์ตถ้วยนั้น เพราะโดยทั่วไปโยเกิร์ตจะมีน้ำหนักประมาณ 140 กรัม ซึ่งให้ปริมาณน้ำตาลประมาณ 6-27 กรัมเลยทีเดียว ดังนั้นควรคำนวณปริมาณน้ำตาลในโยเกิร์ตด้วยการคำนวณจากน้ำตาล 1 ช้อนชา ซึ่งมีน้ำหนักประมาณ 5 กรัม สาวๆ ควรนำปริมาณน้ำตาลที่แสดงบนฉลาก หารด้วย 5 เพื่อที่จะทราบถึงปริมาณน้ำตาลเป็นหน่วยช้อนชาได้ เช่น ปริมาณน้ำตาลในโยเกิร์ตมี 25 กรัม หารด้วย 5 ซึ่งเป็นน้ำหนักของน้ำตาล 1 ช้อนชา เท่ากับว่าโยเกิร์ตถ้วยนั้นมีปริมาณน้ำตาลมากถึง 5 ช้อนชาเลยทีเดียว
2.เลือกที่มีวิตามินดีสูง
ทำไมต้องเลือกกินโยเกิร์ตที่มีปริมาณของวิตามินดีสูง คำตอบก็คือ เพราะวิตามินดีเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อการดูดซึมแคลเซียม เมื่อร่างกายได้รับแคลเซียมที่เพียงพอ ก็จะส่งผลดีต่อระบบเผาผลาญและการลดน้ำหนักที่ได้คุณภาพนั่นเอง
3.เพิ่ม Flaxseed ในโยเกิร์ต
การเพิ่มธัญพืชต่างๆ อย่างเช่น Flaxseed หรือเมล็ดแฟลกซ์ ก็มีส่วนช่วยเพิ่มสารอาหารให้แก่ร่างกายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญเมล็ดแฟลกซ์ยังมีความสามารถในการดูดซับน้ำและพองตัวได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกอิ่มท้องนาน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระและทำให้อุจจาระอ่อนตัว จึงเป็นการเร่งให้ของเสียออกจากร่างกายได้เร็วขึ้น
4.กินวันละ 3 ถ้วย
การกินโยเกิร์ตวันละ 3 ถ้วย จะช่วยให้การลดน้ำหนักเห็นผลได้เร็ว และมักทำให้การลดน้ำหนักของสาวๆ ที่เลือกกินโยเกิร์ตประสบผลสำเร็จได้อย่างมาก อีกทั้งยังช่วยลดไขมันบริเวณหน้าท้องได้มากถึง 81% นอกจากนี้ยังช่วยให้ระบบการเผาผลาญทำงานได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
5.จัดเป็นอาหารสำหรับมื้อว่าง
การกินโยเกิร์ตเป็นมื้อว่างของวัน จะช่วยให้รู้สึกอิ่มท้องนาน ส่งผลให้การกินมื้อหลักลดลงได้อย่างอัตโนมัติ จึงทำให้การลดน้ำหนักของสาวๆ เห็นผลได้เร็ว และยังช่วยให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายสำหรับผู้ที่ตั้งใจจะลดน้ำหนักอย่างจริงจัง
6.ไม่หลงกลกับคำว่า “โยเกิร์ตไขมันต่ำ”
คำว่า “โยเกิร์ตไขมันต่ำ” ที่เขียนอยู่บนฉลาก ทำให้การลดน้ำหนักไม่ได้ผลมาเยอะ เพราะผู้บริโภคไม่ทันได้ตรวจสอบถึงปริมาณของสารอาหารที่อุดมอยู่ในโยเกิร์ตถ้วยนั้นให้ละเอียดรอบคอบ บางคนอาจจะชะล่าใจไปกับคำว่าไขมันต่ำ จนเมื่อทานเข้าไปแล้ว ร่างกายกลับได้รับพลังงานเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 84 กิโลแคลอรี่เลยทีเดียว
จะเห็นได้ว่าการกินโยเกิร์ตที่ถูกต้องนั้น ควรให้ความสำคัญในเรื่องของการอ่านฉลากให้ดี ศึกษาปริมาณของไขมัน น้ำตาล และพลังงานให้ครบถ้วน เพื่อที่จะได้ทราบว่าโยเกิร์ตที่ถืออยู่นั้น จะให้สารอาหารอะไรในปริมาณเท่าไหร่แก่ร่างกายบ้าง หากไม่ใส่ใจในรายละเอียดสำคัญนี้ อาจทำให้การลดน้ำหนักกลายเป็นการเพิ่มน้ำหนักแทนได้
ที่มา:sanook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น